กรีนแลนด์ เกาะที่ปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลนหาได้ กรีน สมชื่อไม่

กรีนแลนด์

ถ้าเห็นในกรีนแลนด์ แผนที่ หลายคนคงจะมีความเห็นที่ตรงกันว่า กรีนแลนด์ เป็นพื้นที่ที่มีความสวยงาม และยังเป็นที่เล่าขานว่าเป็นกรีนแลนด์ สถานที่ท่องเที่ยว ที่มีความงดงามของธรรมชาติ รวมไปถึงกิจกรรมการพักผ่อนที่ไม่ธรรมดา ทำให้นักท่องเที่ยว ที่เดินทางมายังสถานที่แห่งนี้ไม่รู้สึกเบื่อ ซึ่งในบทความนี้เราจะชวนทุกท่าน ไปทำความรู้จักกับเกาะแห่งนี้กันค่ะ

แน่นอนว่าที่ Greenland ถือว่าเป็นเกาะ ที่มีความใหญ่ที่สุดในโลก เป็นเกาะที่อยู่ทางทิศเหนือ ตรงบริเวณแอดแลนติกเชื่อมกับมหาสมุทรอาร์ติค และในตอนนี้ได้กลายเป็นน้ำแข็งไปหมดซะแล้ว ที่สำคัญคือมีทะเลที่ล้อมรอบเกาะ ทำให้ชายฝั่งของเกาะก็จะมีอุณหภูมิที่ต่ำอยู่ตลอดเวลา

กรีนแลนด์ สถานที่ท่องเที่ยว

กรีนแลนด์ ที่หลายคนต่างยกให้เป็นสวรรค์บนธารน้ำแข็ง

สำหรับใครที่ยังไม่ทราบว่ากรีนแลนด์ เป็นประเทศไหม หรือกรีนแลนด์ ประเทศอะไร ที่นี่ไม่ได้เป็นประเทศนะคะ ถึงแม้ว่าจะมีพื้นที่ที่กว้างใหญ่ ก็ไม่ได้หมายความว่าที่นี่เขาจะมีฐานะเป็นประเทศ แต่ว่าเป็นเกาะที่ปกครองตนเองภายใต้อธิปไตยของราชอาณาจักรเดนมาร์ก

เกาะอันใหญ่โตแห่ง Greenland นี้มีประชากรอยู่ราวๆ 56,370 คน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นชาวอินูอิตไปถึง 88 % อันนี้หมายรวมไปถึงพวกลูกผสมด้วย และอีก 12% ที่เหลือนั้นก็คือเป็นชาวยุโรปที่ส่วนใหญ่ก็เป็นชาวเดนมาร์ก สำหรับภาษาที่ใช้กัน เป็นภาษาหลักก็คือ ภาษากรีนแลนด์ kalaallisut และ dansk และแน่นอนว่าคนของเกาะแห่งนี้ก็จะพูดสองภาษานี้

แต่ที่ Greenland ก็จะมีเมืองใหญ่ ที่อาจจะเรียกได้ว่าเป็นเมืองหลวงของเกาะแห่งนี้คือ นุก Muuk ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของฝั่งตะวันตกของเกาะกรีนแลนด์ ซึ่งมีพื้นที่คือ 690 ตารางกิโลเมตร และเมืองนี้เองก็จะเป็นเมืองที่มีความเพียบพร้อมไปด้วย บรรดาสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ รวมไปถึงมีสนามบินนานาชาติ ท่าเรือขนส่ง มหาวิทยาลัย ยังมีโบสถ์ และสนามกีฬาในร่มด้วยนะคะ แถมยังมีพิพิธภัณฑ์ โรงแรมและมีร้านอาหารอีกมากมายด้วยค่ะ

เกาะกรีนแลนด์

เกาะกรีนแลนด์ สถานที่ท่องเที่ยว ที่มีอุณหภูมิติดลบไปถึง 30 องศาแต่ วัฒนธรรม กรีนแลนด์รวมถึงประชากรอยู่อย่างสงบ

สถานที่แห่งนี้มีฤดูร้อนเพียงแค่ไม่กี่เดือนเท่านั้น ซึ่งจะอยู่ในช่วงประมาณปลายเดือนมิถุนายน ไปจนถึงกลางๆ เดือนสิงหาคม ก็จะมีอุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 10 องศาเซลเซียส และแน่นอนว่าฤดูหนาว ก็จะยาวนานอย่างมากเลยทีเดียว เพราะจะเริ่มกันตั้งแต่ เดือนกันยายน ไปจนถึงกลางเดือน เมษายน และอุณหภูมิจะไปถึง -30 องศากันเลยทีเดียวค่ะ

ในปัจจุบันมีงานวิจัยล่าสุดบอกว่า น้ำแข็งที่กรีนแลนด์ จะมีการละลายตัวเฉลี่ยถึง 30 ล้านตันในทุก ๆ 1 ชั่วโมงทำให้พอจะสรุปได้ว่านี่กำลังจะกลายเป็นวิกฤตการณ์ โลกรวน และนับวันก็จะยิ่งสร้างผลกระทบที่จะทวีความรุนแรง ที่มากขึ้นเรื่อยๆ และยังได้มีการรายงานจากภาพถ่ายดาวเทียม มีการระบุตำแหน่งที่สิ้นสุด ของธารน้ำแข็งหลายแห่งของ เกาะกรีนแลนด์ ว่ามีน้ำแข็งที่หดตัวอย่างมากและหลายจุดอีกด้วย

นักวิทยาศาสตร์หวั่นว่าการละลายตัวของน้ำแข็งที่ เกาะกรีนแลนด์ อาจจะทำให้เกิดกระแสน้ำ AMOC ล่มสลาย

อย่างที่บอกว่ามีบรรดานักวิทย์ฯ เกิดความหวาดหวั่นว่า การที่ธารน้ำแข็งมีน้ำจืดมากมายขนาดนี้ มันเลยทำให้น้ำจืดไหลลงมาที่มหาสมุทรแอดแลนติกเหนือ เพิ่มมากยิ่งขึ้น ซึ่งเหตุการณ์นี้ อาจจะนำพาไปสู่การล่มสลายของกระแสน้ำ AMOC ของแอดแลนติกเหนือ

และนี่เป็นหนึ่งในส่วนสำคัญของเทอร์โมฮาไลน์ หรือที่รู้จักกันว่ามันก็คือสายพานลำเลียงกระแสน้ำขนาดใหญ่ ที่ไหลเวียนไปยังมหาสมุทรทั่วโลก ซึ่งจะมีหน้าที่ในการรักษาสมดุลของภูมิอากาศ และสถานการณ์นี้จะมีผลกระทบที่ร้ายแรงต่อมนุษยชาติ และในตอนนี้กระแสน้ำ AMOC นั้นอยู่ในสถานการณ์ที่ถือว่าอ่อนไหวที่สุดในรอบ 1,600 ปีเลยทีเดียว ซึ่งมันเกิดจากอุณหภูมิโลกที่เพิ่งสูงขึ้น ที่เกิดมาจากภาวะ โลกรวน ทำให้ธารน้ำแข็งของเกาะแห่งนี้เกิดการละลาย

และเมื่อมีจุดเริ่มต้นของเทอร์โมฮาไลน์ ในมหาสมุทรแอดแลนติกตอนเหนือ ตอนบริเวณนอกชายฝั่งของทางตะวันออกเฉียงใต้ในกรีนแลนด์นั้น จะทำให้ความเค็มของทะเลบริเวณนั้น เกิดเจือจางมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะทำให้กระบวนการของการจมตัว ของมวลน้ำบริเวณนี้ค่อยๆ ช้าและในที่สุดก็หยุดลง

สิ่งนี้จะส่งผลให้สายพานการไหลเวียน ทั้งระบบทั่วโลก ทำให้เกิดการไหลช้างลง และสุดด้วยก็จะหยุดชะงักตามไปด้วย และตามผลของการวิจัยนี้ ได้ชี้ชัดกันแล้วว่า กรณีที่ว่านี้จะเลวร้ายที่สุด และอาจจะเกิดการล่มสลาย ที่จะเกิดขึ้นเร็วที่สุดก็คือปีหน้าในปี 2025 นั่นเองค่ะ

กรีนแลนด์ สถานที่ท่องเที่ยว

กรีนแลนด์ ยังคงมีทรัพยากรทางธรรมชาติที่อุดดมสมบูรณ์

ความจริงแล้ว เกาะกรีนแลนด์ ยังคงมีทรัพยากรทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์มาก ส่วนใหญ่แล้วก็จะมีมูลค่าทางเศรษฐกิจที่สูงๆ ทั้งนั้นเลย อย่างเช่น ก๊าซธรรมชาติ และแร่ต่างๆ อย่าง สังกะสี ตะกั่ว เพชร รวมไปถึงทอง ทองแดง รวมไปถึงเหล็กและยูเรเนียม และสิ่งที่ถือว่าเป็นที่ต้องการอย่างมากก็คือ น้ำมัน

ซึ่งเขาประเมินมาแล้ว ว่าจะสามารถขุดได้มากกว่า 2 พันล้านตันที่จะสามารถเริ่มมีการขุดเจาะได้ในปี 2050 นอกจากนี้ยังมี ไฮโดรคาร์บอน ที่เป็นส่วนที่จำเป็นต่อการพัฒนาเทคโนโลยี และยังเป็นพลังงานสะอาด ซึ่งเขาได้ค้นพบทั้งทางภาคตะวันตก และภาคตะวันออกของเกาะแห่งนี้อีกด้วย

ซึ่งทั้งหมดนี้ยังไม่ได้มีการนับ เอาแหล่งทรัพยาการอื่นๆ ของ กรีนแลนด์ แต่มีหลายฝ่ายต่างก็เชื่อว่า ยังไม่มีการค้นพบและการละลายของพวกพืชน้ำแข็ง ซึ่งจะมีผลมาจากวิกฤตของสภาพภูมิอาการ ที่เริ่มจะทวีความรุนแรงที่มากขึ้นทุกปี และแน่นอนว่ากรีนแลนด์ สถานที่ท่องเที่ยว จะได้ค้นพบพวกทรัพยากรทางธรรมชาติที่ จะ