ที่เที่ยวในฮ่องกง ทำความรู้จักฮ่องกงกันสักนิด

ที่เที่ยวในฮ่องกง มีความหลากหลาย ทางวัฒนธรรม ที่มีทั้งตึกสูง ท่าเรือ ศูนย์การค้าที่ยิ่งใหญ่ทันสมัย อีกทั้งยังมีสวนสนุกระดับโลก วัดที่สวยงาม และเป็นเอกลักษณ์ มีตลาดขายสินค้าพื้นเมือง

ฮ่องกง มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า เขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน Hong Kong Special Administrative Region of the People’s Republic of China) ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของจีน พื้นที่ประกอบไปด้วย เกาะฮ่องกง (Hong Kong Island) เกาลูน (Kowloon) ดินแดนใหม่ (New Territories) เกาะลันเตา (Lantau Island) ที่เที่ยวในจีน

ฮ่องกง เป็นเขตปกครองตนเอง ริมฝั่งทางใต้ของประเทศจีน ในทางภูมิศาสตร์ มีสามเหลี่ยมปากแม่น้ำจูเจียง และทะเลจีนใต้โอบรอบ มีประชากรกว่าเจ็ดล้านคน เป็นเขตที่มีประชากรอาศัยอยู่ตาม เมืองต่างๆในฮ่องกง หนาแน่นที่สุดเขตหนึ่งในโลก

ประชากรส่วนใหญ่ของฮ่องกง มีเชื้อชาติจีน ประชากรส่วนใหญ่ พูดภาษากวางตุ้งของฮ่องกง กำเนิดจากมณฑลกวางตุ้ง ซึ่งประชากร จำนวนมากหนีสงคราม และการปกครองระบอบคอมมิวนิสต์ในจีนแผ่นดินใหญ่ ตั้งแต่คริสต์ทศวรรษ 1930 

ที่เที่ยวในฮ่องกง หลากหลายสนุกครบรส ที่คุณไม่ควรพลาด

หากเพื่อนๆ กำลังที่เพิ่งเริ่ม เดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ แอดมินขอแนะนำ เที่ยวฮ่องกง 2021 ให้อยู่หนึ่งในลิสที่เพื่อนๆ ควรจะมาค่ะ เพราะใช้เวลา ในการนั่งเครื่องบิน จากเมืองไทยไม่นาน

และการเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ ในฮ่องกงสะดวกมาก เพราะเค้าใช้การเดินทางโดยรถไฟฟ้าใต้ดินเป็นหลัก สถานที่เที่ยวในฮ่องกง มาเก๊า มีที่ไหนไม่ควรพลาดบ้างไปดูกันเลยค่ะ

วิคตอเรีย พีค

เดอะพีค นั่งรถราง ชมวิว ฮ่องกง ที่สวยที่สุดจากยอดเขาวิกตอเรีย พีค และถ้าเพื่อนๆ คิดถึงสถานที่ ที่มีกิจกรรมมากมาย ให้นึกถึงเดอะพีคเลยค่ะ เดอะพีค คือจุดสูงสุดของเกาะฮ่องกง เป็นย่านหรูหราที่สุดของเมือง มาตั้งแต่สมัยยุคอาณานิคม เป็นย่านที่ ดึงดูดเศรษฐี และผู้มีชื่อเสียง จนมาถึงปัจจุบัน

มีการปรับภูมิทัศนียภาพของเมือง ที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และยังคงสามารถดึงดูด คนให้หลั่งไหลมาที่นี่ และทัศนียภาพที่สวยงามนั้น ยังเป็นสิ่งที่ทำให้ เดอะพีคเป็นหนึ่งในสถานที่เที่ยวฮ่องกง กลางคืน

ส่วนของเดอะพีค ตั้งอยู่บนเขาวิคตอเรีย ที่เป็นจุดชมความงามของเมืองจุดหนึ่ง ที่ได้รับความนิยมกันมาก ต้องบอกว่ามาฮ่องกงแล้วต้องมาชมเมืองกันที่นี่ เมื่อขึ้นมาถึงแล้ว เราจะพบกับตึกรูปทรงแปลกตาตั้งเด่นเป็นสง่า พีคทาวเวอร์เป็นอาคาร รูปครึ่งวงกลม หงายขึ้นท้องฟ้า

มีศาลาชมวิวขนาดใหญ่ ชื่อว่าสกายเทอร์เรซ 428 ภายในจะมี ร้านขายของ ร้านอาหาร พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง มาดามทุสโซ ให้นักท่องเที่ยวได้เดินช็อป ชม ชิล

นอกจากนี้เพื่อนๆ ยังสามารถแวะชื่นชม ทัศนียภาพได้จากที่จุดชมวิวบนถนนลูการ์ด ศาลาชมวิวไลออน และด้านบนสุดของเดอะพีคทาวน์เวอร์ค่ะ ต้องบอกก่อนนะคะว่า พอใกล้ตอน 5 โมงเพื่อนๆ ควรจะไปจับจองพื้นที่ ที่ดีที่สุดไว้เลยค่ะ เพราะคนจะเยอะมาก เมื่อใกล้ค่ำตึกต่างๆ ทั่วฮ่องกงก็จะเปิดไฟกันหมด เมื่อถึงเวลานั้นก็เตรียมกล้องมาถ่ายรูป เก็บบรรยากาศสวยๆ กันได้เลยค่ะ

บริเวณด้านล่าง ของสถานีรถรางพีคแทรม ยังมีอีกหนึ่งสิ่งที่เพื่อนๆ ต้องทำก็คือ การไปชมพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เดอะพีคแทรม ที่ภายในแบ่งออกเป็นหลายโซน บอกเล่าเรื่องราว ประวัติความเป็นมาของรถรางพีคแทรม ตั้งแต่อดีตที่เป็นรถรางหัวจักรไอน้ำ มาจนถึงปัจจุบัน โดยเพื่อนๆ จะแวะก่อนขึ้นไปข้างบนวิคตอเรีย พีค หรือจะแวะชมตอนขากลับก็ได้ เพราะว่าเข้าฟรีค่ะ
สำหรับการขึ้นไปเที่ยวเดอะ พีค ไปได้ 2 ทางคือ

1. นั่งรถรางขึ้นไป หรือที่เรียกว่า เดอะ พีคแทรม
การนั่งพีคแทรม เป็นประสบการณ์ที่เพื่อนๆ ไม่ควรพลาด เพราะรถรางพีคแทรม เป็นรถรางเก่าแก่ ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1888 เพื่อใช้เดินทาง ขึ้นไปยังยอดเขาวิคตอเรีย พีค ชื่นชมตึกระฟ้า ของเกาะฮ่องกง เคลื่อนผ่านหน้าต่าง ไปในมุมที่คาดไม่ถึง เมื่อไต่ระดับขึ้นไปยังเดอะพีค ตามรางกระเช้าไฟฟ้า ที่มีประวัติเก่าแก่ของเมือง ระหว่างทางเพื่อนๆ จะได้ชมธรรมชาติของภูเขา ได้มองเห็นวิวสวยๆ ของฮ่องกงไล่ระดับขึ้นไป จากสถานีต้นทาง ไปยังปลายทางด้านบนใช้เวลาประมาณ 7 นาที

2. นั่งรถบัสสาย 15
ข้อดีคือ ราคาถูก ประหยัด เพียง 10 เหรียญฮ่องกง ราวๆ 45 บาทไทย รวดเร็ว ใช้เวลาประมาณ 20 นาที จาก Bus Terminal ที่ Exchange Square MTR สถานี Central สะดวกกว่านั่งรถรางมาก เพราะ รถรางคนเยอะ ต่อคิวนานมาก บางครั้งเกือบชั่วโมงเลยค่ะ
อีกหนึ่งวิธีในการเดินทางถือได้ว่าเป็น ที่เที่ยวฮ่องกง ธรรมชาติ เพื่อชมวิวสวยๆ บนยอดเขาวิคตอเรีย พีค ก็คือการเดินไปบนเส้นทาง ศึกษาธรรมชาติ ซึ่งสามารถเริ่มได้จากถนนลูการ์ด (Lugard Road) บริเวณด้านข้างเดอะพีค ทาวเวอร์ โดยเพื่อนๆ สามารถเดินลัดเลาะ ไปตามทางได้อย่างชิลๆ ระหว่างทาง ก็จะได้ชมทั้งวิวสวยๆ ของฮ่องกง และอ่าววิคตอเรีย

ได้ชมธรรมชาติโดยรอบ ซึ่งแต่ละจุด ก็จะมีป้ายบอกรายละเอียด เกี่ยวกับต้นไม้พันธุ์ต่างๆ ให้เราได้เรียนรู้ไปในตัว สามารถดื่มด่ำ ไปกับธรรมชาติ และความงดงามของวิวฮ่องกง ได้อย่างเต็มอิ่ม มีจุดชมวิวให้ได้แวะถ่ายรูป เมื่อเดินไปเรื่อยๆ

ก็จะเจอถนนฮาร์เลช (Harlech Road) และสุดท้ายจะกลับมาบรรจบที่เดอะพีค ทาวเวอร์อีกครั้ง เป็นอันเสร็จสิ้นการเดินศึกษาธรรมชาติ พร้อมชมวิวสวย บนระยะทางประมาณ 3.5 กิโลเมตร

ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ 

เป็นสวนสนุกที่เที่ยวได้ทั้งคนในครอบครัว ตั้งอยู่บนเกาะลันเตา สามารถเดินทางไปได้โดยรถไฟฟ้าใต้ดิน ดิสนีย์แลนด์เชื่อมต่อกับ สถานีซันนีเบย์ นอกจากนี้ยังสามารถเดินทาง โดยใช้รถประจำทางสาย R33 และ R42 แท็กซี่ หรือแม้แต่โดยเรือข้ามฟาก จากท่าเรือจิมซาโจ่ยสตาร์เฟอร์รี่

สิ่งที่ควรรู้ก่อนจะมาเที่ยวที่ดิสนีย์แลนด์ นั่นก็คือ สำหรับเครื่องเล่นดิสนีย์บาวด์จะมีการจำกัดการเล่น เพียงหนึ่งครั้งต่อวัน ถ้าเพื่อนๆคนไหนที่อยากจะเล่น ควรจะมาถึงก่อน 11 โมงนะคะ

ในดิสนีย์แลนด์ เพื่อนๆจะได้เพลิดเพลิน กับเหล่าตัวละคร และเครื่องเล่นดิสนีย์ ตั๋วในมือของเพื่อนๆ จะเป็นเหมือนการ เดินทางสำรวจดินแดนต่างๆ ซึ่งในสวนสนุก แบ่งออกเป็น 7 สถานีด้วยกัน คือ Iron Man Experience และพบกับไอรอนแมนตัวจริง ร่วมทีมกับ Ant-Man และ the Wasp

เพื่อช่วยต่อสู้กับเหล่าสวอร์มบอตที่บุกโจมตี S.H.I.E.L.D. พาวิลเลียนใน “Ant-Man and The Wasp: Nano Battle” เข้าไปที่ Mystic Manor ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของฮ่องกง รวมทั้งเรายังได้ผจญภัยโดยการนั่งรถผ่านพิพิธภัณฑ์ และแกลเลอรีภาพเคลื่อนไหว ที่ทุกสิ่งกลับมามีชีวิตอีกครั้ง

สำหรับคนที่ชอบความตื่นเต้น สามารถเดินทางต่อไปยัง Big Grizzly Mountain Runaway Mine Cars และ RC Racer
เพื่อน ๆ ที่ชื่นชอบเจ้าหญิงทั้งหลาย และอยากจะเป็นเจ้าหญิงดูสักวัน สามารถเข้าไปแปลงโฉมกันได้ที่ New Bibbidi Bobbidi Boutique ซึ่งเป็นสถานที่ให้เช่าชุดเจ้าหญิง

สามารถเลือกตามต้องการว่าจะเป็นใคร พร้อมทั้งมีการแต่งหน้า ทำผม และทาเล็บ รับรองว่าเด็กๆหรือผู้ใหญ่หลายคน ที่อยากจะเป็นเจ้าหญิงดูสักครั้ง ต้องชอบมุมนี้แน่นอนค่ะ

สถานนีต่อไปสวนสนุกเรียกว่าการต่อสู้ การปราบเหล่าร้าย สามารถเลือกการฝึก Jedi และต่อสู้กับ Darth Vader ได้ที่ Tomorrowland พบกับเครื่องเล่น และเหล่าตัวละครโปรดของดิสนีย์ ในส่วนความบันเทิง สำหรับครอบครัว ที่นี่ก็จะมีขบวนการแสดงจากบรรดาเจ้าหญิง

และเหล่าตัวละครดิสนีย์ในงาน Flight of Fantasy Parade ซึ่งจะจัดขึ้นเฉพาะช่วงกลางวันเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีการแสดงละครเพลงของดิสนีย์ เช่น Festival of the Lion King และ Mickey และ Wondrous Book ที่ซึ่งมีนักร้องแบบสด ๆ เหล่าตัวละครดิสนีย์ และนักเต้น

ภายในสวนสนุก ก็มีที่ให้รับประทานอาหาร ไม่ว่าจะเป็นอาหารที่เป็นจานหลัก หรือขนมขบเคี้ยวสไตล์ฮ่องกง ก็จะมีตู้จำหน่าย ให้เลือกในหลายจุด นอกจากนั้นยังมีร้านอาหาร ที่โรงแรมของดิสนีย์แลนด์สำหรับคนที่มีเวลา หรือต้องการเปิดประสบการณ์ การทานอาหารในแบบเจ้าหญิง ก็สามารถมาลองทานกันได้ค่ะ

หากเพื่อนๆ ที่อยากลิ้มรสชาติของอาหารจีน ให้ลองแวะไปที่ Dragon Wind ที่ Disney Explorers Lodge หรือ Crystal Lotus ที่โรงแรมของส่วนสนุก ซึ่งมีความพิเศษของอาหารจีน คือติ่มซำรูปตัวละครดิสนีย์ และอีกหลายอย่าง บางทีระหว่างที่ทานอาหารอยู่ เพื่อนๆอาจจะโชคดี ได้พบกับเหล่าตัวละคร ของดิสนีย์ที่โรงแรมก็ได้นะคะ

หากเพื่อนๆ ที่วางแผนจะพักค้างคืน หรืออยากเที่ยวสวนสนุกสัก 2 วัน ปัจจุบันก็มีโรงแรมในสวนสนุกอยู่ทั้งหมด 3 แห่ง ได้แก่ Disney Explorers Lodge ใหม่ล่าสุด, Hong Kong Disneyland Hotel และ Disney’s Hollywood Hotel Disney Explorers Lodge

ตกแต่งสวนตามธีม มีขนาดกว้างขวาง ตกแต่งด้วยภาพงานงานศิลปะ ตุ๊กตา ของเล่นต่างๆ ถ้าครอบครัวได้มาพักที่นี้ รับรองว่าต้องถูกใจเด็กๆ แน่นอนค่ะ Hong Kong Disneyland Hotel เป็นโรงแรมเด่นของสวนสนุก และตกแต่งในสไตล์วิคตอเรียหรูหรา ถูกใจทั้งผู้ใหญ่ และเด็ก

เมื่อเทียบกันแล้ว Disney’s Hollywood Hotel น่าจะเป็นสถานที่ที่ผ่อนคลาย และมีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น สนามเด็กเล่นกลางแจ้ง ห้องเล่นเกม และร้านอาหาร อีกทั้งยังมีกิจกรรมสันทนาการ ที่โรงแรมทั้งแห่งฟรี

ทั้งยังมีห้องพักธีมดิสนีย์อีกด้วย เพื่อนๆคนไหนที่สนใจ ก็สามารถเข้าไปดูแพ็คเกจเที่ยวสวนสนุก และที่พักได้ที่เว็บไซต์ของทางโรงแรมได้เลยค่ะ