พระธาตุพนม หากได้ไปเยือนแล้วจะยังอยากไปอีกครั้งเรื่อย ๆ อย่างแน่นอน

พระธาตุพนม เป็นพระบรมธาตุ ที่ทำให้เห็นถึงความเจริญรุ่งเรือง ในส่วนของศาสนา ในจังหวัดนครพนม องค์พระธาตุ มีความสวยงามตั้งตระหง่าน มองเห็นได้อย่างชัดเจน ทั้งกลางวันและกลางคืน มีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนาน เป็นที่เคารพกราบไหว้บูชา ทั้งของคนในจังหวัดนครพนม และคนทั่วประเทศ มีความเชื่อสืบต่อกันมา ว่าหากใครได้มีโอกาส ไปสักการะสักครั้งในชีวิต จะถือว่าเป็นสิริมงคล แก่ชีวิตเป็นอย่างมาก อีกทั้งหากใครได้ไปสักการะ ครบทั้งหมด 7 ครั้ง จะถือว่าเป็นลูกพระธาตุ ชีวิตจะมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง โบราณสถานแห่งนี้ นอกจากจะเป็นที่เคารพบูชา ของคนในจังหวัดแล้ว ยังเป็นที่เคารพต่อประเทศเพื่อนบ้าน อย่างประเทศลาว

เพราะในทุก ๆ ปี ที่ตรงกับวันมาฆบูชา จะมีงานเทศกาล จัดนมัสการบูชาพระธาตุ ทำให้เห็นได้ว่า บุคคลที่มีความเคารพต่อพระธาตุ จะเดินทางมาจากทั่วสารทิศ ทั้งในไทยและต่างประเทศ มาร่วมเข้าพิธีบูชานี้ ทั้งยังมีเรื่องเล่าขานมากมาย เกี่ยวกับตำนานความเป็นมา ทั้งเรื่องที่พิสูจน์ได้และพิสูจน์ได้ยาก ดังตัวอย่างที่คนนครพนมเล่าต่อ ๆ กันมา ว่าในวันก่อนที่พระธาตุพนมจะล้มลง ได้มีฝนฟ้าคะนองและฝนตกหนัก ติดต่อกันเป็นเวลาหลายวัน

ในคืนนั้นชาวบ้านคู่สามีภรรยา ได้ออกมาปิดประตูหน้าต่างกลางดึก เนื่องจากพายุที่แรงมาก แต่ได้เห็นลำแสงประหลาด จึงได้มองขึ้นไปบนฟ้า และได้เห็นกับเงาที่แปลกประหลาด ที่สะท้อนกับแสงของฟ้าแลบ สองสามีภรรยาบอกว่า เห็นลักษณะคล้ายงูขนาดใหญ่ เรียงรายต่อกันบริเวณยอดพระธาตุ ตนเห็นดังนั้น จึงตกใจมาก และทำการปิดประตูบ้านทันที และเมื่อเวลาผ่านไปสักพัก จึงได้ยินเสียงดัง เหมือนกับตึกถล่ม และได้ออกมาดู ถึงรู้ว่าในคืนนั้น พระธาตุพนมได้ล้มและพังทลายลงมา

บ้างก็เล่าขานกันมาว่า พระธาตุพนมกำลังจะล้มลง ด้วยความเสื่อมโทรมทางวัตถุ แต่ที่ไม่เกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง และไม่มีทรัพย์สินหายแม้แต่ชิ้นเดียว นั่นอาจจะเป็นเพราะ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ออกมาปกป้ององค์พระธาตุ หรืออาจจะเป็นเพราะลำแสงประหลาดที่สองสามีภรรยาคู่นั้นเห็นก็เป็นได้ค่ะ

ประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจของพระธาตุพนม

สำหรับ ประวัติความเป็นมาของพระธาตุพนม นั้นหากศึกษามาเป็นอย่างดีจะรู้ว่า พระธาตุที่เราเห็นอยู่ในปัจจุบันนี้ เป็นการบูรณะตัวครอบขึ้นมาใหม่ เนื่องจากตัวครอบอันเก่านั้น มีความเก่าแก่เป็นอย่างมาก สร้างขึ้นมาในสมัยต้นพุทธกาล พ.ศ. 8 สำหรับใครที่สงสัยว่า ในพระธาตุ มี อะไร ภายในได้บรรจุพระอุรังคธาตุ (กระดูกส่วนหน้าอก ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า) เอาไว้และมีทรัพย์สินล้ำค่ามากมาย อยู่ภายในองค์พระธาตุ และหากใครที่อยากรู้ว่า พระธาตุพนมล้ม พ ศ อะไร

เหตุการณ์นี้ เป็นสิ่งที่คนในจังหวัดนครพนมและทั่วประเทศ ต่างพากันตกใจ กับสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2518 ในช่วงเวลา 19.39 น. องค์พระธาตุพนมได้ล้มลง เนื่องจากความเก่าแก่ และมีภัยธรรมชาติเกิดขึ้นอย่างหนัก ติดต่อกันหลายวัน จึงมีการบูรณะขึ้นมาใหม่ แล้วเสร็จในช่วงวันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2522 ซึ่งเป็นพระธาตุ ที่เราเห็นกันมาจนถึงปัจจุบันนี้นั้นเอง ภายในบริเวณรอบ ๆ พระธาตุ จะบรรยากาศที่ร่มรื่น เหมาะมากค่ะ กับสายบุญทั้งหลายที่อยากไปเสริม หรือเพิ่มเติมต่อแต้มบุญ

สิ่งที่ควรรู้ก่อนที่จะไปนมัสการพระธาตุพนม

พระธาตุพนมเป็นโบราณสถาน ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ และมีคนจำนวนมาก เคารพนับถือบูชา สถานที่ตั้งโดยรอบ จึงมีความเชื่อกันว่า เป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นการไปนมัสการพระธาตุพนมนั้น นักท่องเที่ยวควรรู้ด้วยว่า สิ่งที่ต้องรู้ก่อนไปพระธาตุพนม มีอะไรบ้าง ดังนี้

การแต่งกาย

การแต่งกายเพื่อไปยังวัดพระธาตุพนมนั้น นักท่องเที่ยวควรแต่งกายด้วยชุดสุภาพ หรือชุดที่เหมาะสม กับสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ทางพระพุทธศาสนา แม้ว่าจะไม่มีข้อบังคับเอาไว้ แต่ถึงอย่างไรก็ดี การแต่งกายให้เหมาะสม เพื่อเข้าไปยังสถานที่เหล่านี้ ก็ถือเป็นหนึ่งในมารยาที่คนเรานั้น จำเป็นต้องมีอยู่แล้วนั้นเอง การนุ่งกางเกง หรือกระโปรงที่สั้นเกินไป จึงไม่เหมาะสม สำหรับการเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ กันเท่าไหร่ อีกทั้งการแต่งกายไม่เหมาะสม ยังทำให้ทุกสายตา ที่ได้เห็นมองดูเรา ด้วยสายตาที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ดังนั้นแนะนำว่า ให้สวมใส่เสื้อผ้าที่เหมาะสม หากต้องการเข้าไปยังสถานที่แห่งนี้นั้นเอง

มารยาทในการเข้าไปยังสถานที่

เนื่องจากวัดพระธาตุพนม เป็นศาสนสถาน ดังนั้นการเข้าไปยังสถานที่ดังกล่าว ไม่เพียงแค่ต้องแต่งกายเหมาะสมเท่านั้น แต่กิริยาและการพูดจาภายในวัด ก็ต้องเหมาะสมด้วยเช่นเดียวกัน คนส่วนใหญ่ จะไม่ใช้เสียงดัง ตะโกน หรือจับกลุ่มคุยกัน จนดูไม่เหมาะสม ดังนั้นในส่วนนี้ ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่ง ที่นักท่องเที่ยวจะต้องพึงระวัง กิริยาท่าทางเอาไว้

ไม่ทำลายหรือหยิบจับสิ่งของต่าง ๆ ภายในวัด

สิ่งของต่าง ๆ ภายในวัดหรือส่วนของ พระธาตุพนม น้อย ถือเป็นทรัพย์สินของวัด และบางอย่างอาจจะมีอายุเก่าแก่พอสมควร ดังนั้นการหยิบฉวย หรือการทำให้เกิดความเสียหายต่อสิ่งต่าง ๆ ภายในวัด จึงไม่ใช่สิ่งที่สมควรทำ ดังนั้นหากสิ่งใดไม่จำเป็น ที่จะต้องหยิบจับขึ้นมา แนะนำว่าไม่ควรหยิบจับอย่างเด็ดขาด ซึ่งมันคือการให้เกียรติสถานที่ และเป็นมารยาทพื้นฐาน สำหรับการไปท่องเที่ยว ยังสถานที่สำคัญ ที่นักท่องเที่ยวจะต้องรู้เอาไว้นั้นเอง

การเดินทางไปยังวัดพระธาตุพนม

วัดพระธาตุพนม ตั้งอยู่ที่ถนนชยางกูร อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม การเดินทางมายังจังหวัดนครพนม สามารถเดินทางได้ ทั้งทางรถและทางเครื่องบิน ขึ้นอยู่กับความสะดวก ในการเดินทาง ของนักท่องเที่ยวแต่ละคน พื้นที่ใกล้เคียงจะมีที่พัก และร้านอาหารมากมาย เพื่อรองรับความต้องการ ในการท่องเที่ยวในแต่ละช่วงปี ภายในสถานที่นี้ ใครที่มาแล้ว ไม่ต้องเป็นกังวล ในส่วนของเครื่องสักการบูชาเลยนะคะ เพราะทางวัดได้จัดเตรียม ไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยว ไว้หมดแล้ว

ทั้งเส้นทาง ที่จอดรถ หรือแม้กระทั่งห้องน้ำ ที่มีไว้บริการ ที่เพียงพอต่อความต้องการอย่างแน่นอน เอาเป็นว่าใครที่อยากที่จังหวัดนครพนม และมาสักการะ แนะนำให้มาได้เลยนะคะ ว่าได้ทุกช่วงเวลา และหากนักท่องเที่ยว มายังวัดไม่ถูกก็ยังสามารถ ติดต่อ วัดพระธาตุพนม ผ่านเบอร์ 094 543 5888

เพื่อสอบถามเส้นทางได้อีกด้วย และสิ่งเหล่านี้ เป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยว จะต้องเตรียมความพร้อม ในการเข้าไปยังสถานที่แห่งนี้ ที่ทางเรานั้น ได้รวบรวมมาฝากกัน หากใครมีตั้งใจ ที่อยากจะไปกราบไหว้บูชาสักครั้งหนึ่ง อย่าลืมเตรียมตัวให้พร้อม สำหรับการเข้าไปเยือนกันด้วย

พระธาตุพนมเป็นพระธาตุประจำวันเกิด ของคนเกิดวันอาทิตย์

อีกหนึ่งสิ่ง ที่เกี่ยวข้องกับพระธาตุพนม ที่หลายคนอาจจะยังไม่เคยรู้มาก่อน คือพระธาตุพนมนั้น เป็นพระธาตุสำหรับคนเกิดวันอาทิตย์ ซึ่งวันอาทิตย์นั้น ในความจริงแล้ว ไม่ใช่วันสุดท้ายของสัปดาห์ แต่มันคือวันเริ่มต้นของสัปดาห์ พระธาตุพนมจึงเปรียบเหมือนตัวแทน แห่งการเริ่มต้นใหม่ที่ดี และตามตำนาน ที่เล่าสืบทอดต่อกันมา สถานที่ตั้งพระธาตุพนมนั้น เปรียบเหมือนจุดเริ่มต้น ของพระพุทธศาสนานั้นเอง

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับเรื่องราวของพระธาตุพนม ที่เรานำมาฝากกันในครั้งนี้ สำหรับใครที่ชอบท่องเที่ยว ตามรอยความศักดิ์สิทธิ์ หรือตามรอยประวัติศาสตร์ แนะนำเลยว่า ไม่ควรพลาดโอกาส ที่จะไปเยือนยังวัดพระธาตุพนมแห่งนี้ เพราะทั้งความสวยงาม ขององค์พระธาตุ ภูมิทัศน์โดยรอบ ทุกอย่างดูมีเสน่ห์ และมีมนต์ขลังอย่างมากเลยทีเดียว หากได้ไปเยือนแล้ว จะยังอยากไปอีกครั้งเรื่อย ๆ อย่างแน่นอน

นำเสนอบทความ โดย สายรุ้ง