เที่ยวโอซาก้า แบบชิล ๆ พร้อมแนะนำสถานที่ ที่คุณไม่ควรพลาด
เที่ยวโอซาก้า เรื่องราวของการ เที่ยวโอซาก้าด้วยตัวเอง ที่ต้องบอกเลยว่า สนุกเหมือนได้ไปเองเลยล่ะ และในโอซาก้านั้น ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมาย ไม่แพ้ที่ kyoto เลยค่ะ หากใครไม่รู้ว่า เที่ยวโอซาก้า เดือนไหนดี อลิสขอแนะนำเป็นช่วงปลาย ๆ ปีค่ะ อย่างช่วงเดือนกันยายน ไปจนถึงธันวาคมเลย หากเพื่อน ๆ พร้อมแล้ว อลิสขอพาเที่ยวทิพย์กันก่อนนะคะ
เที่ยวโอซาก้า ขอเริ่มต้นกันที่สถานที่ ที่ใครหลาย ๆ คนต้องแวะเวียนมาไม่ขาดสาย จะเป็นที่ไหนกันนะ
เที่ยวโอซาก้า กันที่แรกกับ ปราสาทโอชาก้า หรือที่เรียกกันว่า Osaka Castle สำหรับปราสาทแห่งนี้ ก็อยู่ในภูมิภาคคันไซ เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม ที่ใครที่ได้มาโอซาก้า ก็ต้องมาเที่ยวกันสักครั้งหนึ่ง ปราสาทโอซาก้า ก็จะเป็นปราสาท ที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น มีบทบาทสำคัญในช่วงสงคราม การรวมประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง
ด้วยความยิ่งใหญ่ของตัวปราสาท ที่มีด้วยกันถึง 8 ชั้น ห้อมล้อมด้วยกำแพงหินคูน้ำ ไปจนถึงสวนนิชิโนมารุ ที่ครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลามองเข้าไป ก็จะเห็นตัวปราสาทใหญ่ ๆ เป็นแบบโบราณแล้วก็รายล้อมด้วยตึกสมัยใหม่ เหมือนกับปราสาทโบราณ ที่หลุดเข้ามาในยุคปัจจุบัน ยังไงอย่างนั้นเลย
แต่เดิมพื้นที่ที่ตั้งปราสาท เคยเป็นที่ตั้งของวัดอิชิยาม่าฮอนกันจิ แต่หลังจากที่ถูกโอดะโนบุนากะทำลายลง หลังจากนั้นอีกประมาณ 30 ปี ในปีพ.ศ 1583 ก็ได้มีการสร้างปราสาทโอซาก้าขึ้นแทน โดยผู้ที่สร้างก็คือท่าน โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ ก็มีเจตนาที่จะให้ปราสาทแห่งนี้ เป็นศูนย์กลางแห่งใหม่ของประเทศญี่ปุ่น
กลายเป็นปราสาท ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ของประเทศญี่ปุ่นในขณะนั้น แต่หลังจากที่ ท่านโทโยโทมิ ฮิเดโยชิ ได้เสียชีวิตลง ก็ได้เกิดการเปลี่ยนแปลง จากการโดนโจมตีของ โทกุคาว่า แม้จะมีการปรับปรุงสร้างใหม่ ในปี คศ.1620 อีกครั้งหนึ่ง ก็เกิดฟ้าผ่า ทำให้ปราสาทได้รับความเสียหายอย่างหนัก ในส่วนของหอคอย
แต่ด้วยความตั้งใจ ที่จะอนุรักษ์สิ่งปลูกสร้างอันทรงคุณค่า ได้มีการบูรณะขึ้นมาเรื่อย ๆ จนถึงปัจจุบัน และมีการสร้างลิฟต์ เพื่ออำนวยความสะดวก ให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมด้วย
ตั้งแต่ชั้น 1 ที่เป็นทางเข้าภายในตัวปราสาท ไปจนถึงชั้นที่ 7 ก็จะเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับยุคสมัยของ โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ ผู้ก่อสร้างปราสาท สิ่งของที่จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ ก็จะเป็นโมเดลจำลอง ตอนฟื้นฟูปราสาทโอซาก้า
พวกชุดเกราะ ดาบ และหุ่นจำลอง ที่แสดงให้เห็นถึง การทำสงครามในสมัยก่อนด้วย ส่วนบริเวณชั้น 8 เป็นจุดชมวิว ที่เราสามารถมองเห็นเมืองโอซาก้า แล้วก็ปราสาทโอซาก้า ได้รอบด้านจากมุมสูงที่สุด สูงจากพื้นดินประมาณ 50 เมตร ภายในปราสาทก็จะมีลิฟต์ตั้งอยู่
ในการเดินเข้าชมตัวปราสาท ก็จะใช้เวลาคร่าว ๆ ประมาณ 30 ถึง 40 นาที ใครที่มีเป้าหมายปราสาทโอซาก้าที่แรก ก็ลองคำนวณเวลาด้วย ว่าอาจจะต้องไปอีกที่หนึ่ง เราจะต้องใช้เวลาที่ตรงนี้ ประมาณเท่าไหร่ดี
แนะนำ osaka station หากเพื่อน ๆ จะ เที่ยวโอซาก้า 1 วัน ที่นี่ก็เป็นอีก 1 ที่ที่คุณต้องมาให้ได้
เที่ยวโอซาก้า ที่ไม่ควรพลาดแหล่งที่ 2 ซึ่งก็คือย่าน ย่านโดทงโบริ นั่นเอง จุดแรกที่หลายคน มักจะตามหาก็คือ บริเวณป้ายกูลิโกะในตำนาน ซึ่งป้ายนี้ก็สร้างมา ตั้งแต่ปี 1935 แล้ว มีการสร้างใหม่ปรับปรุงรูปแบบ ให้ดูเหมือนใหม่ แต่ว่าลวดลาย ก็ยังคงเดิมแบบคลาสสิก ที่ยังโดดเด่นมาถึงปัจจุบันเลย
ปัจจุบันถนนโดทงโบริ เป็นย่านการค้าที่สำคัญ แห่งหนึ่งของโอซาก้า ซึ่งอยู่ใกล้กับสถานีนัมบะ ติดกับย่านชินไซมาชิ สามารถเดินทะลุกันได้ด้วย การเดินทางมาที่ถนนโดทงโบริ สามารถลงรถที่สถานีนัมบะ หรือสถานีนิฮงบาชิ เดินประมาณซัก 2-3 นาที ก็จะถึงแล้ว
สำหรับย่านนี้ ก็มีทั้งแหล่งช้อปปิ้ง และร้านอาหารอร่อย ๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ทาโกะยากิร้าน Takoyaki Kukuru ร้านดังของย่านโดทงโบริ จุดสังเกตของร้านนี้คือ เจ้าปลาหมึกตัวยักษ์สีแดง ที่อยู่บนป้ายหน้าร้านนั่นเอง
ทาโกะยากิของร้านนี้ มีจุดเด่นคือ จะใช้ปลาหมึกสดใหม่ และชิ้นใหญ่มาก ราดด้วยปลาโอแห้งทานคู่กับมายองเนส และซอสทาโกะยากิสูตรลับของทางร้าน เรียกได้ว่าอร่อยกลมกล่อม แบบเต็มปากเต็มคำเลย
ต่อด้วยเกี๊ยวซ่าจากร้าน Osaka Ohoho ร้านดังอีกร้านของย่านนี้ จะอยู่ใกล้ ๆ กับร้านทาโกะยากิ หน้าร้านจะมีเกี๊ยวซ่ายักษ์อยู่ รูปร่างหน้าตาคือ ดึงดูดให้ต้องไปลองกันมาก ๆ เลย
ต่อกันที่เมนู โอโคโนมิยากิ หรือพิซซ่าญี่ปุ่น จากร้าน Mizuno ร้านดังที่เปิดขายมากกว่า 60 ปี ความอร่อยที่ได้รับการเล่าปากต่อปาก ถึงรสชาติความกลมกล่อมของแป้ง ที่อัดแน่นชิ้นใหญ่ จึงทำให้มีลูกค้าแน่นตลอดทั้งวัน และได้รับรางวัลการันตีจาก มิชลินไกด์อีกด้วย
โดยเมนูเด็ดของร้านก็คือ Mizuno Yaki สไตล์ฮิโรชิม่า ที่จะใส่ส่วนผสมทีละชั้น ให้ความกรอบนอกนุ่มใน และอีกหลากหลายแบบ ที่เชฟจะมาทำการปรุงให้ชมตรงหน้าเราเลย และยังสามารถเลือกท็อปปิ้ง ได้ตามต้องการอีกด้วย
ต่อกันที่ร้านต่อมาในย่านนี้ก็คือ Kani Doraku ร้านปูเจ้าดัง ตัวร้านตั้งอยู่ใกล้ ๆ กับป้ายกูลิโกะ เด่นสง่าด้วยป้ายปูแดงยักษ์ ที่นี่จะเสิร์ฟอาหาร ที่มีปูเป็นส่วนประกอบ มีเมนูหลากหลาย ทั้งแบบเป็นคอร์ส จานเดียว หรือจะปิ้ง ย่าง ต้นแบบชาบู หรือแบบเซตพิเศษตามฤดูกาล ก็มีให้เลือกเช่นกัน
มาต่อกันที่ร้านราเมน Kinryu Ramen หรือที่คนไทยเรียกติดปากว่า ราเมนมังกร จุดเด่นอยู่ที่เส้น ที่มีความกรุบกรอบกำลังดี เสริมด้วยหมูชาชูเนื้อนุ่ม ละลายในปาก และน้ำซุปกระดูกหมูรสกลมกล่อม แถมยังเติมผักได้ไม่อั้น ซึ่งทางร้านจะเสิร์ฟเมนู 2 แบบ ราเมนปกติและราเมนหมูชาชูนั่นเอง
มาต่อกันที่ร้าน Kushikatsu Daruma ร้านขายของทอดเสียบไม้ ต้นตำรับฉบับคันไซ ที่ร้านจะมีหุ่นคุณลุงหน้าโอ่ง ถือไม้คุชิคัตซึ รอต้อนรับอยู่หน้าร้าน ซึ่งสามารถเลือกวัตถุดิบ ที่ต้องการได้ ไม่ว่าจะเป็น เนื้อวัว เนื้อไก่ เนื้อหมู ไข่นกกระทา ไส้กรอก ผักต่าง ๆ ลงทอด จนแป้งสีเหลืองกรอบ และจิ้มกับน้ำซอสสูตรเฉพาะของทางร้าน
โดยมีกติกาว่า สามารถจิ้มได้ครั้งเดียวเท่านั้น หากอยากเติมซอสเพิ่ม ให้ใช้กะหล่ำปลีตัก เพราะว่าซอสถ้วยนี้ ต้องใช้กับลูกค้าท่านอื่น ๆ ด้วยนั่นเอง นอกจากร้านเหล่านี้แล้ว ที่ย่านโดทงโบริ ก็มีของอร่อยอีกหลายร้าน ให้เราได้เลือกชิม เลือกช้อปกันอีกมากมาย
สถานที่สำคัญและน่าสนุกอย่างสวนสนุก Universal Studio Japan จะน่าสนุกมากแค่ไหน
มาต่อกันที่ เที่ยวโอซาก้า 2023 คราวนี้จะไป เที่ยวโอซาก้า กันต่อที่ Universal Studios Japan สำหรับที่นี่นั้น ก็เป็นสวนสนุก ที่มีชื่อเสียงอย่างมากในโอซาก้านั่นเอง ซึ่งสวนสนุกแห่งนี้ ก็มีหลากหลายโซนด้วยกัน
ขอเริ่มต้นกันที่ โซนแฮรี่พอตเตอร์กันก่อน ในโซนนี้คุณก็จะได้พบ สิ่งปลูกสร้างที่จำลองมาจากหนังเรื่อง Harry Potter อย่างมากมาย ที่เห็นได้เด่นชัดก็คือ รถไฟฮอกวอตส์ 59722 ปราสาทฮอกวอตส์ก็มีให้เห็นเช่นกัน
มากันที่โซนต่อมา กับโซนที่มีชื่อว่า Super Nintendo World สำหรับโซนนี้นั้น แน่นอนว่า คุณจะได้เห็นเครื่องเล่น ที่เกี่ยวข้องกับเกม Nintendo ในรุ่นแรก ซึ่งเกมที่มีชื่อเสียงของเกม Nintendo นั้น ก็คือมาริโอ้นั่นเอง อยู่ที่เครื่องเล่นในโซนนี้
โดยส่วนใหญ่แล้ว ก็จะเป็นเครื่องเล่น ที่จำลองมาจากเกมมาริโอ้แต่ละเวอร์ชัน ซึ่งโซนนี้ก็เป็นโซนที่ เพิ่งเปิดมาได้ไม่นาน มีทั้งรถไฟธรรมดา ที่จำลองมาจากเกมมาริโอ้ แล้วก็รถไฟออกที่จำลอง มาจากเกมมาริโอ้ด้วย แล้วยังมีเครื่องเล่นอื่น ๆ อีกมากมายในโซนนี้
มาต่อกันที่โซนต่อมากัน กับโซนที่มีชื่อว่า Jurassic Park แน่นอนว่าในโซนนี้นั้น เครื่องเล่นส่วนใหญ่ ก็จะเป็นธีมที่จำลองมาจาก ภาพยนตร์เรื่อง Jurassic Park เครื่องเล่นที่น่าสนใจในโซนนี้ ก็จะเป็นเครื่องเล่น ที่จะวิ่งจากพื้นที่ปกติ แล้วก็ลงมาในน้ำ คล้าย ๆ กับเครื่องเล่น Super Splash ในสวนสนุกบ้านเรา
แต่มาพร้อมกับธีมที่สวยงามกว่า และขนาดที่ใหญ่กว่านั่นเอง เครื่องเล่นที่น่าสนใจในโซนนี้ ก็มีรถไฟเหาะด้วยนะ
มาต่อกันที่ โซนที่มีชื่อว่า มินเนี่ยน โดยที่โซนนี้นั้น ก็จะจำลองเครื่องเล่นมาจาก ภาพยนตร์เรื่อง Minions แต่ละภาคนั่นเอง ใครที่เป็นสาวกของมินเนี่ยน มั่นใจได้เลยว่า จะต้องชื่นชอบโซนนี้อย่างแน่นอน ส่วนนี้ก็จะเต็มไปด้วยธีมที่น่ารัก
ของเล่นส่วนใหญ่นั้น ก็จะไม่ซับซ้อนมากนัก เป็นโซนที่เด็ก ๆ มักจะชื่นชอบกัน สามารถเข้ามาเล่นกันได้ มากันที่โซนต่อมา โซนนี้ก็มีชื่อว่า โซนสไปเดอร์แมน ของเล่นทั้งหมดในโซนนี้ ก็จะเป็นธีม ของสไปเดอร์แมน ที่เป็นแบบฉบับของ Comic นั่นเอง
สำหรับใคร ที่อยากเล่นเครื่องเล่นที่นี่ ในช่วงกลางคืน ก็จะต้องซื้อบัตรแบบ vip เนื่องจากบัตรปกตินั้น ก็จะอยู่ได้ถึง 6 โมงเย็นเท่านั้น ในแต่ละโซนทั้งหมดที่ว่ามานี้ ก็จะมีโซนที่เป็นร้านอาหาร ที่เป็นธีมเฉพาะของแต่ละโซนอีกด้วย
ปิดท้ายกันด้วย การไหว้พระขอพรกันที่ ศาลเจ้าสุมิโยชิ มีที่มาที่ไปอย่างไร
มาต่อกันที่ สถานที่ท่องเที่ยวต่อไป ที่มีชื่อเสียงในโอซาก้ากันต่อ กับสถานที่ที่มีชื่อว่า ศาลเจ้าสุมิโยชิ ซึ่งก็เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ประจำเมืองโอซาก้านั่นเอง สำหรับการเดินทางมาที่นี่นั้น สามารถเดินทางมาได้หลายเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นรถบัสประจำทาง หรือว่าจะเป็น สถานี รถ ไฟ ฟ้า แล้วก็รถไฟใต้ดิน
เริ่มต้นคุณก็จะได้เห็น สะพานโซริฮาชิ ซึ่งเป็นสะพานทรงโค้งสูงสีแดงสวยที่โดดเด่น จนเป็นจุดที่ใคร ๆ ก็ไม่พลาดที่จะถ่ายรูปเก็บไว้ ศาลเจ้าแห่งนี้มีอายุยาวนานกว่า 1,800 ปีแล้ว แล้วก็เป็นศาลเจ้าหลักของ ซึมิโยชิจินจะ กว่า 2,300 แห่งด้วย ที่นี่จะมีศาลาหรือว่าอุโบสถให้ไหว้ถึง 4 หลังด้วยกัน
เมื่อเข้าไปในศาลเจ้า ก็จะมีกิมมิคว่า จะต้องหาหินรูปอักษร 3 ตัว ได้แก่ โกะ ได ลิกิ เมื่อหาเจอแล้ว ก็นำไปใส่ถุงเครื่องราง และสามารถนำสิ่งมงคล กลับบ้านได้ด้วย
การทำบุญที่ญี่ปุ่น นิยมใช้เหรียญ 5 เยน เนื่องจากเหรียญ 5 เยน ในภาษาญี่ปุ่น มีความหมายว่าเป็น การขอพรจากเทพเจ้า ถ้ามาคนเดียว ก็ขอให้ได้พบคู่ ถ้ามาเป็นคู่ ก็ขอให้รักกันไปนาน ๆ และถ้าหากว่า มากันทั้งครอบครัว ก็มีความหมายว่า ขอให้คนในครอบครัวมีความสุข เหรียญ 5 เยน จึงเป็นสัญลักษณ์ ของความโชคดี
ในตอนนี้ก็มาถึง โซนที่ให้หาหินกันแล้ว โซนนี้ก็จะมีกิจกรรมให้ผู้คนนั้น หาหิน 3 ก้อน ซึ่งก็ได้แก่ 3 ตัว ที่ได้กล่าวไปข้างต้น เมื่อหาเจอแล้ว ก็สามารถนำใส่ถุง แล้วก็นำกลับบ้าน เพื่อเพิ่มความโชคดีได้อีกด้วย
โดยมีความเชื่อว่า ผู้ใดที่พบเห็นทั้ง 3 ก้อน จะมีความโชคดี 5 ประการ ได้แก่ ร่างกายแข็งแรง มีความเฉลียวฉลาด มีโชคลาภทางการเงิน มีความสุข และกินดีอยู่ดี ก็จบกันไปแล้ว สำหรับการรีวิวแต่ละสถานที่ ในเมืองโอซาก้า แต่ละที่เป็นสถานที่สำคัญ ที่นักท่องเที่ยวมักจะเลือกไปกัน
ใครต้องการข้อมูล เที่ยวเอเชีย ที่นี่เพิ่มเติม สามารถค้นหาจากคำค้น เที่ยวโอซาก้า pantip เพื่อหาข้อมูล การแชร์ประสบการณ์ จากผู้ที่เคยไปเยี่ยมชมมา แล้วพบกันใหม่ในครั้งหน้านะคะ
ติดตามบทความที่น่าสนใจอื่น ๆ
เขียนโดย อลิส